Search


กรามใหญ่ ดูหน้าบานๆ อยากรักษาโดยไม่ผ่าตัดได้...

  • Share this:


กรามใหญ่ ดูหน้าบานๆ อยากรักษาโดยไม่ผ่าตัดได้หรือไม่?
คำตอบคือทั้งได้และไม่ได้ครับ...
โดยทั่วไปแล้วการที่เราเห็นว่ากรามใหญ่เนี่ยจะเกิดได้จากสองสาเหตุใหญ่คือ 1. กระดูกกรามใหญ่เอง คือเป็นพันธุกรรมของเรา
2. กล้ามเนื้อที่เกาะบริเวณกรามใหญ่หนา
3. ทั้งสองสาเหตุบนร่วมกัน
ปกติแล้วการตรวจร่างกายโดยเเพทย์เฉพาะทางก็จะพอแยกกันได้ครับหากเป็นเพราะกระดูกใหญ่การรักษาก็ต้องทำการศัลยกรรมลบมุมกรามออก โดยตัดมุมของกรามออกซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากมากเพียงแต่ต้องดมยาสลบและนอนรพ.ประมาณ2-3วัน ค่าใช้จ่ายก็แล้วแต่จะผ่าที่ไหน ถ้าผ่าที่รพของรัฐเช่นรามาธิบดี ก็จะอยู่ประมาณ3หมื่นกว่า ถ้าผ่าตัดเอกชนก็ประมาณหกหมื่นถึงแสนกว่า ข้อดีคือผ่าทีเดียวกรามเล็กเลย
แต่ถ้าเป็นเพราะกล้ามเนื้อใหญ่ก็สามารถรักษาได้ง่ายๆโดยการฉีดBotoxเข้าไปในกล้ามเนื้อ โดยมากมักเริ่มที่ประมาณ50 unit หลังฉีดประมาณ3-4สัปดาห์จะเริ่มเห็นผล และจะอยู่ได้ประมาณ4-5เดือนแล้วกล้ามเนื้อจะกลับใหญ่ขึ้นมาใหม่ ค่าใช้จ่ายถ้าเป็นรพของรัฐก็จะประมาณหกพันบาทถ้าเป็นเอกชนก็อาจจะเป็นหมื่นถึงสองหมื่น ข้อดีคือไม่เจ็บตัวมาก แค่เจ็บตอนฉีด แต่ข้อเสียคือต้องฉีดเรื่อยๆ
ถ้าเป็นทั้งสองสาเหตุก็อาจเริ่มจากการฉีดBotoxก่อนแล้วค่อยพิจารณาผ่าตัดทีหลัง
สรุปว่าหน้าเรียวได้ถ้ารักษาอย่างถูกวิธี (ไม่ใช่เอะอะก็ร้อยไหมหน้าเรียวv shapeหรือฉีดBotoxหน้าเรียวตลอดเวลา)


Tags:

About author
เพจด้านการแพทย์ที่มุ่งให้ความรู้และช่วยเหลือผู้ที่ต้องการข้อมูลทางศัลยกรรมตกแต่งที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและเชื่อถือได้โดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งมีประสบการณ์การศึกษาต่อและดูแลรักษาคนไข้ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามาเกือบยี่สิบปี ปัจจุบันเป็นสมาชิกของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยและสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ติดตามอ่านบทความที่ผมเขียนได้ที่ http://drsurawejrama.wordpress.com/ นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม ศัลยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะปัจจุบันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รับผิดชอบเกี่ยวกับการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์และฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งรวมถึงการให้บริการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติบริเวณใบหน้าและศัลยกรรมตกแต่งทุกชนิดรวมถึงงานวิจัยที่มุ่งพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้ป่วยของประเทศไทย จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและศึกษาต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมทั่วไปที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และด้านศัลยกรรมตกแต่งที่โรงพยาบาลรามาธิบดีหลังจากบรรจุเป็นอาจารย์แล้วได้ไปศึกษาต่อด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าที่ Chang Gung Memorial Hospital ประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียและเป็นที่หมอเกาหลีมาดูงานการผ่าตัดใบหน้าจำนวนมาก หลังจากศึกษาต่อที่ไต้หวันเป็นเวลาหนึ่งปีก็ได้ศึกษาต่อเพิ่มเติมที่หน่วยศัลยกรรมตกแต่ง University of Washington, Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านแพทยศาสตร์ระดับ Top10 ของอเมริกาและมีความโดดเด่นด้านการวิจัยซึ่งหลังจากนายแพทย์สุรเวชได้ศึกษาต่อหนึ่งปีก็ได้รับทุน fellowship จาก National Institutes of Health(NIH) ของอเมริกาให้ทำงานด้านการวิจัยด้านสเตมเซลและการรักษาแผลเป็นอีกเป็นเวลาสามปีมีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับโลกและได้รับการชักชวนจาก Professor หลายท่านให้ทำงานต่อที่อเมริกาแต่เนื่องจากความต้องการจะทำงานเพื่อช่วยเหลือคนไทยจึงได้ปฎิเสธข้อเสนอเหล่านั้นไป ปี 2554 นายแพทย์สุรเวชได้เดินทางกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลรามาธิบดีและได้พัฒนาโครงการวิจัยเกี่ยวสเตมเซลจากไขมันการวิจัยเพื่อป้องกันแผลเบาหวานและการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งผ่านสื่อของRama Channel, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, มติชน, นิตยสาร Cosmetics, นิตยสาร Allure, นิตยสารHug(7-11) นอกจากนั้นยังรักษาผู้ป่วยทุกระดับชั้นเช่นลุงกุ๋ยผู้ป่วยที่มีใบหน้าพิการไม่สามารถหลับตาและทานอาหารได้ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและเป็นได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้และเรื่องเด่นเย็นนี้ทางไทยทีวีสีช่อง3 ปัจจุบันนี้นายแพทย์สุรเวชให้บริการตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นหลักและมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการในโรงพยาบาลของรัฐให้เป็นที่พึ่งพาแก่ประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุดโดยเสียค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุดและต้องการที่จะให้ประชาชนและผู้ป่วยได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจก่อนเข้ารับการรักษาโดยไม่ถูกบิดเบือนจากการโฆษณาและการตลาด ติดตามและพูดคุยกับนายแพทย์สุรเวชได้ที่ Website : http://drsurawejrama.wordpress.com/ Email : [email protected] FB page : https://www.facebook.com/drsurawejrama
Page for everyone who want straight talk about Cosmetic Surgery: A Guide for making informed decision and avoid useless treatments by Dr Surawej Numhom
View all posts